ข้อดีของวิตามินซีและการดีท็อกซ์

พูดถึงวิตามินซีทุกคนก็คงจะทราบว่าเป็นวิตามินที่สำคัญต่อการดำรงค์ชีวิตของมนุษย์ เพราะหากขาดวิตามินซีร่างกายก็คงจะทำงานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่รู้ไหมว่า วิตามินซีมีบทบาทสำคัญในการดีท็อกซ์ล้างสารพิษอีกด้วย วันนี้ MikaNutra จะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับเหตุผลที่คุณควรดีท็อกซ์และเผยสูตรลับในการดีท็อกซ์ด้วยวิตามินซีไปพร้อมกันที่นี่ที่เดียว

วิตามินซีคืออะไร?

วิตามินซี มีชื่อทางเคมีว่า แอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ มีส่วนช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในกระดูก กล้ามเนื้อและหลอดเลือด ช่วยส่งเสริมการดูดซับธาตุเหล็กสามารถป้องกันและรักษาการอักเสบอันเนื่องมาจากแบคทีเรียและไวรัสได้  วิตามินซีบริสุทธิ์ คือ Ascorbic acid มีฤทธิ์เป็นกรด ส่วนวิตามินซีตามท้องตลาดส่วนมากก็คือ แอสคอร์เบท (Ascorbate) แคลเซียม แอสคอร์เบท (Calcium Ascorbate) หรือเกลือแอสคอร์เบท

วิตามินซีเป็นวิตามินที่จำเป็นและสำคัญมากสำหรับมนุษย์ เป็นส่วนประกอบหลักในปฏิกิริยาเอ็นไซม์ ซึ่งรวมอยู้ในการสังเคราะห์คอลลาเจน ซึ่งหากทำงานผิดปกติจะทำให้เกิดกลุ่มอาการรุนแรงของโรคลักปิดลักเปิด ปฏิกิริยาเหล่านี้สำคัญมากในการสมานแผลและการป้องกันเลือดออกจากหลอดเลือดฝอย นอกจากนี้แอสคอร์เบทยังมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย 

ชนิดของวิตามินซี

วิตามินซีบริสุทธิ์หรือแอสคอร์บิก มีฤทธิ์เป็นกรด เสื่อมสภาพเร็ว พบมากในผักและผลไม้รสเปรี้ยว ส่วนแคลเซียม แอสคอร์เบท เป็นชนิดของวิตามินซีที่เกิดจากการสังเคราะห์เกลือแร่ มีคุณสมบัติคล้ายวิตามินซี ต่างเล็กน้อยที่เกลือแร่จะทำงานโดยลดความเป็นกรดของวิตามินซี ช่วยเรื่องของสุขภาพฟัน เหงือก กระดูก ผิวหนังและหลอดเลือด ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก อีกทั้งสามารถนำไปเพิ่มในอาหารโดยไม่มีผลต่อรสชาติ คุณสมบัติและประโยชน์นั้นเหมือนวิตามินซีทุกประการ แต่แตกต่างตรงที่ไม่เป็นกรด

กรดแอสคอร์บิกจำเป็นต่อระบบเผาผลาญหลายในสัตว์และพืชทุกชนิด ซึ่งมนุษย์ไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ จำเป็นต้องได้รับจากอาหาร กรดแอสคอร์บิกสังเคราะห์เป็นสารปรุงแต่งอาหารที่ใช้ในวงการอาหารอย่างกว้างขวางเพื่อป้องกันการเกิดการแปรสภาพ

การทำให้วิตามินซีให้อยู่ในรูปเกลือนั้นมีผลดีที่ลดความเป็นกรดและช่วยลดผลข้างเคียงบางอย่าง เช่น อาการปวดท้องหรือท้องเสีย ที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการรับประทานในรูปแบบของ แอสคอร์บิกโดยไม่มีความแตกต่างในด้านของการดูดซึม

แต่การทานวิตามินซีในรูปแบบเกลือแร่นั้นมีข้อควรระวังอยู่ นั่นก็คือปริมาณของโซเดียมที่เราทานเข้าไป สำหรับผู้ที่ต้องควบคุมปริมาณการทานโซเดียมนั้นควรจะทานในปริมาณที่จำกัด แต่หากอยากทานวิตามินซีบริสุทธิ์ก็ควรระวังเรื่องผลข้างเคียงอย่างเช่น อาการคลื่นไส้ ท้องเสีย

เนื่องจากวิตามินซีจะถูกขับออกจากร่างกายภายในสองถึงสามชั่วโมงหลังรับประทานเข้าไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับปริมาณอาหารในกระเพาะและการรักษาระดับของวิตามินซีในเลือดให้อยู่สูงตลอดถือเป็นสิ่งที่สำคัญต่อสุขภาพ ดังนั้นการทานวิตามินซีเพื่อให้ได้ผลดีควรรับประทานพร้อมอาหารมื้อเช้าและเย็น

คุณสมบัติและประโยชน์ของวิตามินซี

วิตามินซีเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่รับประทานกันอย่างแพร่หลายที่สุด มีจำหน่ายทั้งในรูปแบบเม็ด ลูกอม แบบผงผสมน้ำ หรือแม้กระทั่งแบบเคี้ยว

วิตามินซีบริสุทธิ์ คือรูปที่แปลงมาจากน้ำตาลเดกซ์โทรสจากข้าวโพด ความแตกต่างระหว่างวิตามินซีจากธรรมชาติหรือแบบอินทรีย์ (Organic) และกรดแอสคอร์บิกสังเคราะห์โดยทั่วไปคือความยากง่ายในการย่อยและดูดซึมซึ่งต่างกันไปตามความสามารถของแต่ละคน

อย่างที่ทุกคนรู้ว่าวิตามินซีช่วยให้ไม่เป็นเลือดออกตามไรฟัน เหมือนตอนสมัยเรียนสุขศึกษาแล้วอาจารย์ให้ท่องว่า วิตามินเอ – ตา เหน็บชา – วิตามิน บี วิตามิน ซี – ฟัน หมัน – วิตามินอี วิตามิน ดี – กระดูก วิตามิน เค – เลือด ไม่รู้ว่าเคยท่องกันไหมแต่เป็นความรู้ติดตัวเรื่องวิตามินและหน้าที่ของวิตามินแต่ละอย่าง แล้ววันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องของวิตามินซีและคุณสมบัติหลักๆ ของมัน

คุณสมบัติของวิตามินซี

• ละลายในน้ำและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
• สัตว์ส่วนใหญ่สังเคราะห์วิตามินซีเองได้แต่ มนุษย์ ลิงและหนูตะเภาต้องอาศัยวิตามินซีจากอาหารที่รับประทาน
• มีบทบาทสำคัญในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งมีความสำคัญต่อกระบวนการสร้างและซ่อมแซมเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ เหงือก ผนังหลอดเลือด กระดูกและฟัน
• ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น
• ถูกใช้หมดไปอย่างรวดเร็วเมื่อตกอยู่ในภาวะเครียด
• ป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL)

ประโยชน์ของวิตามินซี

• ช่วยในการรักษาแผลสด แผลไหม้และอาการเลือดออกตามไรฟัน
• ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียหลายชนิดและช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น
• ช่วยป้องกันมะเร็งหลายประเภทช่วยต่อต้านการสร้างสารในโตรซามีน ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง
• ช่วยลดความดันเลือดและช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
• เป็นยาระบายตามธรรมชาติ
• ช่วยในการรักษาและป้องกันโรคหวัด
• เพิ่มการดูดซึมของธาตุเหล็ก
• ลดอาการที่เป็นผลมาจากสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้

วิตามินซีและการล้างพิษ

ตั้งแต่ตอนเด็กๆ ทุกคนคงเคยได้ยินพ่อกับแม่บอกให้กินวิตามินซีหรือดื่มน้ำส้มตอนที่เรารู้สึกครั้นเนื้อครั้นตัวเหมือนจะไม่สบาย วิตามินซีก็ทำหน้าที่เหมือนคุณหมอประจำบ้านที่ทุกคนรู้จักดี แต่รู้ไหมว่าวิตามินซีนั้นมีดีมากกว่าการสารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

เราจะมาพูดถึงหน้าที่ของวิตามินซีที่มีบทบาทหลักในการล้างสารพิษและโลหะหนัก อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่ารอบตัวเรานั้นมีสารพิษและอนุมูลอิสระมากมาย ทั้งในอากาศ อาหาร เครื่องสำอางค์รวมถึงสิ่งประโลมผิวพวกโลชั่น โรลออนหรือแม้กระทั่งสบู่ต่างก็มีสารเคมีและสิ่งปลอมปนเยอะแยะมากมาย ซึ่งหลายคนอาจจะปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตกันไปเรียบร้อย เข้าสู่วิถีออแกนิคหรือเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในบ้านที่ไม่มีส่วนประกอบอันตราย อย่างไรก็ตามเราก็คงหนีไม่พ้นสารพิษอยู่ดี แต่ถ้าหากเรารับมือทันหรือหาทางป้องกันไม่ให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะเป็นพิษหรือการอักเสบเรื้อรังก็คงดี ที่หนักที่สุดของการมีสารพิษและโลหะหนักตกค้างในร่างกายเป็นจำนวนมากก็คงจะเป็นโรคร้ายแรง เจ็บป่วยเรื้อรังอย่างเช่น  โรคไฟโบรมัยอัลเจีย (โรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง) โรคพาร์กินสัน ไมเกรน อัลไซเมอร์ และมะเร็ง

ข่าวดีก็คือวิตามินซีเป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุดเพื่อเตรียมตัวรับมือและชำระล้างสารพิษในร่างกายในระยะยาว มนุษย์ต้องการวิตามินซีด้วยเหตุผลหลายอย่างและวิตามินซีเป็นวิตามินที่มนุษย์ไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ แต่สามารถได้รับจากการทานอาหาร โดยเฉพาะอาหารในกลุ่มผักและผลไม้ เช่น ส้ม มะขาม ฝรั่ง พริกหวาน บร็อคโคลี่ คะน้าและกะหล่ำต่างๆ ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซีชั้นดีที่ร่างกายต้องการ

หลายคนอาจขาดวิตามินซีเพราะไม่ชอบทานผักหรือผลไม้ จึงทำให้ท้องตลาดออกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมประเภทกรดแอสคอร์บิกหรือวิตามินซีเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ปัญหาก็คือร่างกายไม่สามารถดูดซึมวิตามินซีแบบสังเคราะห์ได้หรือบางทีอาจทำให้ระบบย่อยอาหารเกิดการระคายเคืองซึ่งส่งผลเสียมากกว่าผลดี ฉะนั้นการเลือกทานวิตามินซีบริสุทธิ์จากธรรมชาติจึงเป็นทางเลือกสำคัญ

วิตามินซีชนิดละลายในน้ำเป็นชนิดที่ร่างกายสามารถนำไปใช้เพื่อขับสารพิษออกจากร่างกาย วิตามินซีชนิดละลายน้ำสามารถทำให้ร่างกายสมดุลและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งอนุมูลอิสระเป็นตัวแปรที่เข้าไปทำลายเซลล์และดีเอ็นเอในร่างกาย (1) โดยวิตามินซีจะเข้าไปเป็นตัวกลางในระบบการขับสารพิษของตับ เมื่อร่างกายขาดวิตามินซีจึงไม่มีแหล่งพลังงานขับเคลื่อนในระบบการขับสารพิษของร่างกายทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ตับจึงทำงานหนัก ไม่สามารถขับสารพิษออกจากร่างกายได้ตามที่ควรจะเป็น

คงเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าควรทานวิตามินซีเยอะแค่ไหนเพื่อให้ร่างกายล้างสารพิษและโลหะหนักออกจนหมด บางบทความบอกว่าร่างกายไม่สามารถดูดซึมวิตามินซีเกิน 200 มิลลิกรัมต่อวันและอีกหลายบทความบอกว่าร่างกายต้องการวิตามินซีมากถึง 3,000 มิลลิกรัมต่อวันหากคุณอยู่ในโหมดดีท็อกซ์ล้างพิษ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือวิตามินซีที่คุณทานมาจากไหน เพราะวิตามินซีธรรมชาติคือขุมทรัพย์ที่ดีที่สุดในการล้างสารพิษ

สูตรการล้างสารพิษแบบออแกนิคฉบับ MikaNutra

สูตรนี้เป็นสูตรดีท็อกซ์และกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่ดีมากๆ สูตรหนึ่ง สามารถทำง่ายๆ ได้ที่บ้านและวัตถุดิบก็หาได้ง่ายด้วยเช่นกัน

อันดับแรกก็คือ นำแอปเปิ้ลสดมาปั่นให้ละเอียดจนเป็นซอส หรือถ้าหากไม่มีเวลาก็สามารถไปซื้อแอปเปิ้ลซอส (Apple Sauce) สำเร็จรูปได้ตามซูเปอร์มาเก็ต จากนั้นก็บดกระเทียม 2-3 กลีบให้ละเอียดนำไปผสมกับแอปเปิ้ลซอส และสุดท้ายก็คือทานอาหารเสริมดีท็อกซ์ Ultra Cleanse ที่อุดมไปด้วย Superfood จากธรรมชาติเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการล้างสารพิษจากธรรมชาติ

วิธีนี้ได้รับการยืนยันว่าร่างกายไม่อ่อนแอหรือเป็นหวัดง่ายเหมือนตอนก่อนทาน กระเทียมที่ใส่ลงไปในแอปเปิ้ลซอสนั้นอุดมไปด้วยซัลเฟอร์ที่ช่วยให้ร่างกายขับสารพิษออกจากร่างกายได้อย่างเต็มที่

หากคุณมีวิธีอื่นๆ หรือสูตรในการดีท็อกซ์ที่สามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้านสามารถแชร์ได้ที่คอมเมนท์ด้านล่างได้เลย!