ดีท็อกซ์ตับและลดอาการอักเสบด้วยเคอร์คิวมิน

ขมิ้นเป็นเครื่องเทศหลักในอาหารอินเดีย แม็กซิกัน และมิดเดิลอีสเทิร์น เป็นสิ่งที่ทุกครัวเรือนต้องมี นอกจากกลิ่นหอม เพิ่มรสชาติและสีสันให้อาหารแล้ว ขมิ้นยังมีข้อดีอื่นๆ ที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย วิธีการล้างสารพิษจากตับสามารถพลิกสุขภาพของคุณให้กลับมาดีกว่าเดิม และการฟื้นฟูสุขภาพตับด้วยขมิ้น เคอร์คิวมิน เพื่อให้ขบวนการกำจัดสารพิษทำงานได้ดียิ่งขึ้นนั้นอาจทำให้คุณลืมการทานยาปฏิชีวนะไปเลยก็ได้

ขมิ้นกับการแพทย์

ในสมัยกรีกโบราณจะนิยมวางถ้วยขมิ้นไว้บนโต๊ะอาหารรวมถึงชาวโมรอคโคก็ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติจนถึงปัจจุบันเช่นกัน แพทย์แผนตะวันออกหรืออายุรเวท (Ayurvedic medicine) ใช้ขมิ้นเป็นเหมือนยาสามัญในการรักษา เพิ่มเมตาบอลิซึมให้กับร่างกาย กระตุ้นระบบย่อยอาหาร ลดอาการอักเสบ และฆ่าเชื้อโรค

ในงานวิจัยปี 2002 ณ มหาวิทยาลัย Annamalai University ในประเทศอินเดีย ได้ทดลองให้เคอร์คิวมินกับหนูทดลองที่เป็นเบาหวาน ผลก็คือสารสกัดจากขมิ้นลดอาการอักเสบของตับอ่อนและยังลดคลอเรสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์อีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยของแพทย์ในประเทศไทยนั่นก็คือ รศ.พญ.วิไล คุปต์นิรัติศัยกุล คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โดยทีมวิจัยได้ทำการศึกษาประสิทธิผล รวมทั้งผลข้างเคียงของสารสกัดขมิ้นชันเทียบกับยาต้านการอักเสบไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) ในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม เนื่องจากพบว่าเมื่อผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมมีอาการปวดหรืออาการอักเสบจะต้องอาศัยยาต้านการอักเสบเพื่อลดการอักเสบและลดอาการปวด 

สำหรับกลุ่มผู้ที่เข้าร่วมงานวิจัยคือ ผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมที่มีอาการปวด 50% ขึ้นไป คือเมื่อวัดจากคะแนนความปวด 0-10 กลุ่มที่เข้าร่วมวิจัยมีคะแนนความปวดอยู่ที่ 5 ขึ้นไป เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มที่คะแนนน้อยกว่านี้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยาต้านการอักเสบ โดยผู้ป่วยจะได้รับสารสกัดแคปซูลขมิ้นชันวันละ 8 เม็ด (2 เม็ด 4 เวลา) เฉลี่ยวันละ 2,000 มิลลิกรัม เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาต้านการอักเสบไอบูโพรเฟนวันละ 800 มิลลิกรัมติดต่อกันนาน 6 สัปดาห์ (มีการติดตามผลทุก ๆ 2 สัปดาห์) ซึ่งใช้การศึกษาเป็นระยะเวลานานกว่า 1 ปี รวมแล้วมีผู้ป่วยที่เข้าร่วมงานวิจัยกว่า 100 ราย

จากการศึกษาวิจัยพบว่าเมื่อมีการวัดคะแนนความปวดของคนไข้ทั้ง 2 กลุ่ม โดยวัดจากการเดิน และการขึ้น-ลงบันได เมื่อเวลาผ่านไป 6 สัปดาห์ ผู้ป่วยทั้ง 2 กลุ่ม มีคะแนนความปวดลดลงทั้งคู่เมื่อเปรียบเทียบกับตอนก่อนเข้าร่วมวิจัย ซึ่งก็หมายถึงว่ายาทั้งสองตัวนี้ให้ผลในการลดอาการปวดเหมือนกัน รวมถึงช่วยให้การใช้งานข้อดีขึ้น โดยวัดจากการเดินในแนวราบเป็นระยะทาง 100 เมตร แต่เมื่อมาเปรียบเทียบว่าระหว่างสารสกัดแคปซูลขมิ้นชันกับยาไอบูโปรเฟนตัวไหนช่วยลดอาการปวดและการอักเสบได้มากกว่ากัน ได้แนวโน้มที่ดูเสมือนว่าสารสกัดแคปซูลขมิ้นชันให้ผลดีกว่าไอบูโพรเฟนเล็กน้อย แต่ในทางสถิตินั้นถือว่าไม่มีความแตกต่างแต่อย่างใด

ขมิ้นและการดีท็อกซ์ตับ

ขมิ้นมีส่วนช่วยในการดีท็อกซ์ตับและยังช่วยผลิตน้ำย่อยเพื่อย่อยอาหารและรักษาตับเพื่อให้ตับทำงานและขจัดสารพิษตกค้างได้ดีขึ้น การที่ขมิ้นสามารถช่วยในการกระตุ้นระบบเผาผลาญก็คือการที่ทำให้ร่างกายร้อนขึ้นและปรับปรุงระบบเผาผลาญ

ตับทำหน้าที่ขับถ่ายของเสียในรูปของน้ำดี ออกมาทางท่อน้ำดี แล้วลงไปออกที่ลำไส้เล็กส่วนต้น น้ำดีนอกจากจะเป็นของเสียที่ร่างกายขับออกมาแล้ว ยังมีน้ำที่เป็นของดีปนอยู่ด้วย ที่ว่ามีของดีปนออกมาก็เพราะว่าน้ำดีนั้นใช้ช่วยในการย่อยอาหารประเภทไขมัน ช่วยในการดูดซึมวิตามินที่ต้องใช้ไขมันร่วมด้วย

สารพิษตกค้างก็มีผลต่อร่างกายทั้งแบบฉับพลันและในระยะยาวเช่นกัน ระดับความอันตรายก็เพิ่มขึ้นตามระยะเวลา นอกจากตับแล้วยังมีปอด ไตและอวัยวะภายในอื่นๆ ที่ช่วยในการกำจัดสารพิษอีกด้วย โดยสารพิษสะสมส่งผลโดยตรงในอวัยวะดังกล่าวทำงานหนักกว่าเดิม ส่งผลให้ร่างกายเสี่ยงต่อการเข้าสู่สภาวะเป็นพิษ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คืออาหารที่มีสารพิษตกค้าง อย่างเช่น ผักและผลไม้ที่หลีกเลี่ยงจากตกค้างจากสารเคมีได้ยากมาก เพราะยาฆ่าแมลงเป็นสิ่งที่ง่ายต่อการปนเปื้อนทั้งดิน น้ำและอากาศ ร่างกายของเราอาจจะไม่แสดงอาการออกมาเร็วแต่คุณสามารถรู้ได้จากการลดน้ำหนักที่ยากขึ้นเรื่อยๆ

ขมิ้นและการรักษาโรค

อย่างที่รู้กันดีว่าเคอร์คิวมินเป็นสารสำคัญที่ทำให้ขมิ้นนั้นประหนึ่งเหมือนยาวิเศษจากธรรมชาติ รวมถึงสรรพคุณทางยาที่ช่วยในเรื่องของโรคหัวใจ อัลไซเมอร์ และการรักษาโรคมะเร็ง สรรพคุณเกี่ยวกับการลดอาการอักเสบนั้นมีส่วนช่วยเกี่ยวกับการลดอาการของโรคปวดข้อและซึมเศร้า

การใช้ขมิ้นรักษาโรคส่วนมากก็คือใช้รักษาโรคที่เกี่ยวกับท้องและลำไส้ ไม่ว่าจะเป็นท้องอืด ท้องเฟ้อ ลดกรด อาหารไม่ย่อย ท้องเสีย คลื่นไส้หรืออาการแพ้ท้อง ชาขมิ้นที่ทำจากเมล็ดขมิ้นผสมกับน้ำร้อนประมาณ 3 นาทีช่วยลดอาการปวดท้อง ขมิ้นมีธาตุเหล็กสูงและดีต่อหญิงที่กำลังตั้งครรภ์

นอกจากนี้ชาขมิ้นยังช่วยในการกระตุ้นภูมิต้านทานเพราะมีวิตามินซีอยู่มาก และยังช่วยในการแก้หวัดและน้ำมูกอีกด้วย การผสมขมิ้นกับกระเทียมเข้าด้วยกันในซุปหรือซอสต่างๆ สามารถช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้นอีกทั้งยังได้รับประโยชน์ในการลดอาการติดเชื้อต่างๆ ในร่างกายอีกด้วย ทางที่ดีควรเลือกซื้อขมิ้นที่สดและปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี หรือหากคุณสามารถปลูกเองได้ก็จะเป็นการดี

หากคุณกำลังมองหาเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีคุณภาพนั้น MikaNutra คือคำตอบสำหรับคุณ รวมถึงอาหารเสริม Curcumin ที่จะวางจำหน่ายเร็วๆ นี้ก็มีส่วนผสมของพิเพอรินอยู่ด้วย เนื่องสารพิเพอรินทำให้การดูดซึมเคอร์คิวมินดีขึ้น 2000% จึงทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมเคอร์คิวมินและออกฤทธิ์ได้ดีนั่นเอง