Exclusing Offer For Thai Residents

Blog

Mar 31 2020

“อ้วน” เสี่ยงติด COVID-19 ส่งเข้า ICU เกิน 70% **UK Report


Cleanser

“อ้วน” เสี่ยงติด COVID-19 ส่งเข้า ICU เกิน 70% **UK Report

แย่แล้ว! ดูเหมือนโรคอ้วนจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ของผู้คนทั่วโลกที่กำลังเผชิญปัญหากับเจ้าโคโรนาไวรัส (Corona Virus) หรือโควิด-19 (COVID-19) แถมยังเพิ่มความหวาดหวั่นใจให้คนเจ้าเนื้อกังวลเพิ่มขึ้นไปอีกว่า “ฉันอ้วนแล้วฉันจะติดโควิตไหม?” ช้าก่อนท่านทั้งหลายอย่าเพิ่งวิตกกังวลกันมากจนเกินไป วันนี้ MikaNutra จะมาไขข้อข้องใจและเพิ่มข้อเท็จจริงให้ทุกคนทราบกันอย่างละเอียดว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้คนอ้วนเสี่ยงติด COVID-19 มากกว่าปกติ?

โรคอ้วนเป็นปัญหาใหญ่จริงหรือ?

เราทุกคนทราบกันดีว่าโรคอ้วนเป็นปัญหาของคนหลายคนบนโลกใบนี้ แต่ตอนนี้โลกทั้งใบกำลังเผชิญปัญหาเดียวกันนั่นก็คือ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)แล้วโรคอ้วนเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 จริงไหม? **รายงานจากประเทศอังกฤษ ของ  Intensive Care National Audit and Research Centre เปิดเผยว่า โรคอ้วนถือเป็นปัญหาและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดโควิด-19 จริง อ้างอิงจากเคสผู้ป่วยจริงที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

จากการรายงานยังมีข้อมูลเกี่ยวกับการแอดมิดของผู้ป่วยที่ติดโควิด-19 และเข้าไปอยู่ในหน่วย ICU (Intensive Care Units หรือ ไอซียู) หรือ ห้องดูแลผู้ป่วยหนัก ซึ่ง 2 ใน 3 (127 คนจาก 196คน) ของผู้ป่วยในห้อง ICU นั้นมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน และผู้ป่วยวิกฤติจำนวน 71 คนมีค่า BMI 30 ขึ้นไปซึ่งเกินมาตรฐานไปมาก จากการรายงานยังพบว่า ผู้ป่วยที่แอดมิดจำนวน 37% นั้นอายุน้อยกว่า 60 ปีและผู้ป่วย 139 คนจาก 196 คนเป็นผู้ชาย!

คำนวณดัชนีมวลกายหรือ BMI

คลิกเพื่อหาค่า BMI ได้ที่นี่ โปรแกรมคำนวณหาค่าดัชนีมลกาย

ความอ้วนนั้นสามารถเพิ่มอาการอักเสบของร่างกายรวมถึงทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง อีกทั้งการที่มีน้ำหนักเกินยังทำให้ปอดทำงานหนักรวมถึงเป็นบ่อเกิดโรคร้ายแรงต่างๆ ทั้งโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคตับและโรคอื่นๆ อีกมากมาย จึงทำให้ผู้ที่มีน้ำหนักเกินมีความเสี่ยงสูงที่จะติดโควิด-19 และเป็นอันตรายต่อชีวิตมากกว่าคนปกติทั่วไป

“ปัจจัยหลักที่เพิ่มความเสี่ยงและทำให้ผู้ป่วยที่ติดโควิด-19 นั้นต้องเข้าไปอยู่ในห้อง ICU ก็คือ ความอ้วน”

Stefan de Hert, MD, PhD อดีตประธานกรรมการบริหาร European Society of Anesthesiology ได้กล่าวไว้ อ้างอิงจาก **UK Metro.

ความอ้วนและโควิด-19

ตอนนี้แหล่งข่าวและบุคลากรทางการแพทย์ทั่วโลก รวมถึงเว็บไซต์มากมายต่างออกมาเตือนประชาชนทั่วไปให้ตระหนักถึงความเสี่ยงที่จะทำให้คุณเป็นผู้ป่วยหนักหากคุณได้รับเชื้อโควิด-19 เพราะน้ำหนักเกิน ซึ่งในขณะนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกมากถึง 723,000 ราย (ข้อมูลล่าสุดจาก CNN วันที่ 31 มีนาคม 63 เวลา 5.00น. ประเทศไทย)

อ้วนและโรคแทรกซ้อน VS โควิต-19 และผู้ป่วยวิกฤติ

ความอ้วนทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ และส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว บางคนมีสารพิษสะสมในร่างกายมากเกินไปจึงลดน้ำหนักยาก ซึ่งความอ้วนนั้นสามารถก่อให้เกิดโรคเพิ่มขึ้นและเมื่อร่างกายอ่อนแอ การได้รับเชื้อโควิด-19 คือการเพิ่มอาการเจ็บป่วยให้เข้าขั้นวิกฤติได้เร็วขึ้นนั่นเอง อีกทั้งความอ้วนยังก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ นั่นก็คือ

โรคเบาหวาน

ความอ้วนเป็นปัจจัยของความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวาน  เนื่องจากอินซูลินที่หลั่งจากตับอ่อนไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพส่งผลให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน  ทำให้เนื้อเยื่อตอนปลายตอบสนองต่ออินซูลินได้น้อยลง ไขมันในเลือดสูงและทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวกับระบบการเผาผลาญ

ไขมันพอกตับ

การรับประทานอาหารมากเกินไปเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดไขมันพอกตับ เพราะตับไม่ได้นำไขมันไปใช้ก็ทำให้เกิดการสะสมไขมันเพิ่มขึ้น  โดยร้อยละ 20 ของคนที่เป็นโรคอ้วนจะมีโรคไขมันพอกตับร่วมอยู่ด้วย  

โรคหัวใจและหลอดเลือด

ความอ้วนทำให้เกิดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เนื่องจากระดับของไขมันคอเลสเตอรอลและไขมันสะสมในร่างกายสูงกว่าปกติ ส่งผลให้หลอดเลือดหนาขึ้น หลอดเลือดแดงจึงตีบแคบ ทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดีและทำให้เกิดหลอดเลือดอุดตัน

ประจำเดือนผิดปกติ

ในผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกินและมีภาวะโรคอ้วนส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ เนื่องจากในผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกินสามารถเปลี่ยนเซลล์ไขมันไปเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งมีผลต่อการหลั่งฮอร์โมน FSH และฮอร์โมน LH ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ

โรคข้อเสื่อม

คนที่มีปัญหาโรคอ้วนจะเกิดเเรงกดกระแทกที่ข้อเข่ามากกว่าคนปกติ ข้อเข่าที่มีเนื้อเยื่อไขมันมาก ๆ สามารถกดเเละทำลายผิวกระดูกอ่อนที่อยู่ใกล้ ๆ ได้ จึงเป็นการเร่งทำให้เกิดโรคข้อเสื่อมเร็วขึ้น

ทางเลือกใหม่! ดีท็อกซ์เพื่อลดน้ำหนัก

การดีท็อกซ์หรือการล้างสารพิษออกจากร่างกายนั้นจะเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดในการชำระล้างสารพิษออกจากลำไส้ได้แบบหมดจด จึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยล้างพิษและฟื้นฟูสุขภาพของคุณ การดีท็อกซ์ที่ได้ผลนั้นส่งผลให้การลดน้ำหนักประสบความสำเร็จและทำให้สุขภาพร่างกายโดยรวมดีขึ้นอีกด้วย แต่กระนั้นแล้วการดีท็อกซ์จำเป็นต้องเอื้ออำนวยต่อสิ่งที่ร่างกายต้องการเพื่อกำจัดสารพิษ อาหารและอาหารเสริมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการดีท็อกซ์ เนื่องจากเรารับประทานอาหารหลายเวลาและร่างกายก็ทำงานเพื่อขับสารพิษอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

แล้วประโยชน์ของการดีท็อกซ์มีอะไรบ้าง?

1.ระบบขับถ่ายดีขึ้น
การดีท็อกซ์เพื่อสวนล้างลำไส้ จะช่วยให้ระบบการขับถ่ายของเราดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันจะช่วยปรับสมดุลระบบการขับถ่ายให้ไหลลื่นและเป็นระบบระเบียบมากขึ้น  

2.ผิวสวยเปล่งปลั่ง
หลายๆ คนอาจจะเคยสงสัยว่าการดีท็อกซ์มันช่วยทำให้ผิวสวยขึ้นได้จริงเหรอ ต้องบอกเลยว่า แค่เพียงทาครีมภายนอกนั้นไม่ได้ช่วยอะไร แต่การจะมีผิวสวยต้องมีจากภายในสู่ภายนอก ดังนั้น เมื่อสารพิษได้ถูกชะล้างออกไปจากร่างกายแล้วนั้น จึงช่วยให้เรารู้สึกมีผิวเปล่งปลั่งขึ้นได้แบบทันตาเห็นจริง

3. ลำไส้ทำงานดีไร้สารพิษตกค้าง
เพราะจุดประสงค์หลักของการดีท็อกซ์นั้นก็เพื่อเป็นการนำเอาสารพิษออกจากลำไส้อยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเราทำการดีท็อกซ์สวนล้างลำไส้ มันจึงช่วยชะล้างคราบเศษอาหารอุดตันจากลำไส้ใหญ่ออกมาได้อย่างหมดจด

4. ระบบเผาผลาญดีขึ้น
เมื่อสารพิษถูกชะล้างออกมาหมด ก็ส่งผลให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นไปด้วยตามลำดับขั้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงานของหัวใจ ตับ ไต หรือแม้แต่เรื่องของผิวพรรณ อะไรๆ ก็ดูส่งผลไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามๆ กันไป

5. รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
เนื่องจากร่างกายจะสามารถดูดซึมน้ำไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ของร่างกายเราได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ทุกๆ ส่วนของร่างกายเกิดการไหลเวียนและทำงานได้ดีขึ้นตามลำดับนั่นเอง

6. รูปร่างดีขึ้น
การดีท็อกซ์ก็คือการดูแลสุขภาพภายในที่เห็นผลอย่างหนึ่ง ซึ่งถือเป็นการนำเอาเศษสิ่งสกปรกที่อุดตันและคั่งค้างอยู่ในลำไส้ออกมาได้อย่างหมดเกลี้ยง จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมหลังทำการดีท็อกซ์แล้วหน้าท้องจึงมีลักษณะแบนราบขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

สรุป

แม้ว่าโรคอ้วนจะมีส่วนทำให้คนที่ติดเชื้อโควิด-19 กลายเป็นผู้ป่วยวิกฤติได้มากกว่าคนปกติ โรคอ้วนยังทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าร่วมด้วย โดยโรคเหล่านี้อาการมักจะทุเลา หรืออาจดีขึ้นเมื่อมีน้ำหนักตัวลดลง ดังนั้นควรดูแลใส่ใจในเรื่องของอาหาร ควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และในปริมาณที่พอเหมาะ เลือกทานอาหารเสริมที่ดีต่อร่างกาย พร้อมทั้งออกกำลังกายเป็นประจำ

หากคุณได้ลองทำทุกวิธีที่ทาง MikaNutra ได้แนะนำมาแล้วยังไม่ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก เราแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาแนวทางและวิธีการรักษาที่เหมาะสมสำหรับคุณ หากคุณมีน้ำหนักส่วนเกินมากๆ และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเข้ารับการรักษาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณ ทาง MikaNutra หวังว่าทุกคนจะมีสุขภาพที่แข็งแรงและผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน

*ข้อความสำคัญ*

การเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีและเหมาะสม คือวิธีที่จะทำให้คุณปลอดภัยจากโรคร้ายและมีสุขภาพที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน


*ในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนหรืออาหารเสริมใดที่จะป้องกันคุณจากเชื้อไวรัสนี้ได้ 100% ฉะนั้นโปรดเข้าใจว่าการเว้นระยะห่างทางสังคมและการล้างมือเป็นสิ่งที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ได้ดีที่สุดในขณะนี้*

บริษัท MikaNutra

    Related Posts

    Scroll To Top