Exclusing Offer For Thai Residents

Blog

Dec 23 2019

รู้หรือไม่! ประจำเดือนบอกสุขภาพภายในของผู้หญิงได้ แบบไหนผิดปกติ?


Menopause, เรื่องของผู้หญิง

รู้หรือไม่! ประจำเดือนบอกสุขภาพภายในของผู้หญิงได้ แบบไหนผิดปกติ?

ผู้หญิงกับประจำเดือนดูจะเป็นอะไรที่หนีกันไม่พ้น ต้องพบต้องเจอกันทุกๆ เดือน ตั้งแต่วัยรุ่นยาวจนเข้าช่วงวัยทอง บางทีก็รู้สึกเบื่อการเป็นผู้หญิงเพราะต้องมีประจำเดือนนี่แหละ เป็นกันบ้างมั้ยคะ เพราะเป็นประจำเดือนแต่ละครั้งอารมณ์แปรปรวนสุดๆ หงุดหงิด วีนเหวี่ยง รู้สึกไม่สบายตัว แล้วถ้าใครปวดท้องด้วยนะยิ่งทรมานเข้าไปใหญ่เลย ประจำเดือนไม่ใช่แค่การขับเลือดออกจากร่างกายเท่านั้น แต่สีของประจำเดือนยังสามารถบอกสุขภาพเราได้ด้วย เคยสังเกตประจำเดือนของตัวเองกันบ้างมั้ยคะ มาดูกันดีกว่าว่าสีของประจำเดือนแต่ละสี บอกถึงปัญหาสุขภาพอะไรได้บ้าง

ประจำเดือนคืออะไร?

ประจำเดือนเป็นภาวะที่เนื้อเยื่อภายในมดลูกหลุดออกมาปะปนกับเลือด เป็นผลมาจากการที่ร่างกายผู้หญิงอย่างเราเตรียมพร้อมที่จะตั้งครรภ์ แต่เมื่อไม่มีการตั้งครรภ์ ร่างกายก็จะปรับเข้าสู่สภาวะปกติ ทำให้เยื่อบุมดลูกที่ถูกสร้างมารองรับตัวอ่อนหลุดออกมากลายเป็นเลือดประจำเดือน โดยปกติผู้หญิงจะเป็นประจำเดือนเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกส่วนใหญ่จะเป็นในเด็กผู้หญิงอายุช่วง 12-13 ปี และจะหมดประจำเดือนในช่วง 45-55 ปี หรือช่วงวัยทองนั่นเองซึ่งในช่วงวัยทองถือเป็นช่วงสำคัญที่ต้องดูแลตัวเองและช่วยให้ร่างกายทำงานไม่หนักเกินไป รวมถึงต้านอนุมูลอิสระไปพร้อมกัน

สีประจำเดือนบอกอะไรบ้าง?

1. สีแดงสด

ประจำเดือนสีแดงสด บ่งบอกได้ถึงสุขภาพที่ดี ร่างกายแข็งแรง ถึงจะสุขภาพดีแต่ไม่ได้แปลว่าจะเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับทุกคน หากใครมีประจำเดือนสีแดงสดเกิน 8 วันเวลาที่มีประจำเดือน อาจเกิดสิ่งผิดปกติขึ้นเกี่ยวกับระบบภายใน ให้ระวังอาจมีติ่งเนื้อหรือเนื้องอกในมดลูก ควรรีบไปปรึกษาแพทย์โดยด่วน อย่าชะล่าใจปล่อยทิ้งเอาไว้นะคะ

2. สีใสจืดจาง

ประจำเดือนมีสีจืดใสๆ สีชมพูอ่อนมากๆ หรือเป็นน้ำ บ่งบอกว่าร่างกายของคุณขาดสารอาหารหรืออาจมีโอกาสเป็นมะเร็งรังไข่ แต่อย่าเพิ่งกังวล เพราะมะเร็งท่อรังไข่มีน้อยกว่าร้อยละ 2 ของโรคมะเร็งทางนรีเวชทั้งหมด แต่ก็ไม่ควรปล่อยทิ้งเอาไว้เช่นกัน ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์จะดีกว่า เพราะมีโอกาสน้อยไม่ได้แปลว่าจะไม่มีโอกาสเป็นเลย

3. สีชมพู

ประจำเดือนสีชมพู บ่งบอกว่าคุณมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ ส่วนใหญ่อาการนี้จะเกิดขึ้นกับนักกีฬาที่ออกกำลังกายอย่างหนักเกินไป เล่นกีฬาอย่างหนัก และมีภาวะขาดแคลเซียม จะส่งผลให้เกิดอาการกระดูกพรุน ผิวพรรณไม่สดใส เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก

สีของประจำเดือนบ่งบอกสุขภาพภายในของผู้หญิง

4.สีเทาหรือเทาอมแดง

ประจำเดือนสีเทาหรือเทาอมแดง อาจเกิดเพราะกำลังตั้งครรภ์แล้วมีความเสี่ยงต่อภาวะการแท้งบุตร หรือถ้าไม่ได้ตั้งครรภ์อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ STD / STI หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ควรปรึกษาแพทย์อย่างเร่งด่วน

5.สีส้ม

ประจำเดือนสีนี้จะมีลักษณะอาการคล้ายกับประจำเดือนสีเทาหรือเทาอมแดง ถ้าหากใครมีประจำเดือนสีนี้ระบบภายในผู้หญิงไม่ปกติแน่นอน เพราะอาจมีการติดเชื้อภายในช่องคลอด อย่างเชื้อ STD/STI หรือกลุ่มโรคที่สามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ จนทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับ และอาการปวดท้องร่วมด้วย อันตรายกว่าที่คิดนะคะ

6. สีน้ำตาลเข้มหรือสีแดงเข้ม

สีน้ำตาลเข้มหรือสีแดงเข้ม บ่งบอกว่าภายในมดลูกมีเลือดเก่าค้างอยู่ในมดลูกนานเกินไป แต่ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้น่ากลัวอะไร มักพบในช่วงวันแรกของประจำเดือนหรือวันท้ายๆ ของประจำเดือน หรือบางทีอาจเป็นเพราะประจำเดือนสัมผัสกับอากาศทำให้เกิดการเปลี่ยนสีได้

7. สีแดงสด และมีลักษณะคล้ายลิ่มเลือด

การที่มีลิ่มเลือดระหว่างเป็นประจำเดือน หมายถึงมีระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนและเอสโตรเจนต่ำ การมีลิ่มเลือดใหญ่จำนวนมากบ่งบอกว่ามีฮอร์โมนที่ไม่สมดุล

8. เลือดเป็นสีเทา สีปนเขียวๆ

การมีประจำเดือนเป็นสีเทา ปนเขียวๆ มีลักษณะข้นเหนียว และร่วมกับมีตกขาวมาก มีปวดท้องน้อย หรือมีไข้ร่วมด้วย เป็นอาการบ่งบอกถึงการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน ควรไปพบแพทย์ทันที

ผู้หญิงอย่างเราๆ ไม่ควรมองข้ามเรื่องพวกนี้เลย เพราะมันเป็นสัญญาณเตือนเรื่องสุขภาพได้ดีเลยทีเดียว เป็นประจำเดือนแต่ละครั้งอย่าลืมสังเกตก่อนจะทิ้งผ้าอนามัยกันด้วยนะคะ นอกจากสีแล้วยังมีอย่างอื่นที่ควรจะสังเกตร่วมด้วยขณะมีประจำเดือน จะมีอะไรบ้าง วันนี้เราได้รวบรวมมาฝากกันด้วยค่ะ

5 สิ่งที่ควรสังเกตเกี่ยวกับประจำเดือน

นอกจากเรื่องของสีแล้ว สิ่งที่ควรสังเกตเกี่ยวกับประจำเดือนได้แก่สิ่งต่อไปนี้

  1. ระยะเวลาที่ประจำเดือนมา อย่างที่บอกไปว่าโดยปกติแล้วประจำเดือนจะมา 3-5 วัน แต่ถ้าประจำเดือนมามากกว่า 7 วัน บ่งบอกได้ว่าร่างกายของคุณมีระดับฮอร์โมนที่ไม่สมดุล ซึ่งจะพบมากในผู้ป่วยที่อ้วน เป็นโรคเบาหวาน หรือมีอาการเครียดมากๆ
  2. ปริมาณของเลือด โดยปกติแต่ละรอบประจำเดือนควรมีปริมาณไม่เกิน 80 มิลลิลิตร หรือสามารถสังเกตได้จากการใช้ผ้าอนามัย จะอยู่ที่ 3-5 แผ่นต่อวัน ถ้าใครที่สังเกตดูแล้วประจำเดือนมามากจนต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยเกินไป อาจแสดงถึงความผิดปกติได้
  3. ลักษณะของเลือด ปกติลักษณะของประจำเดือนไม่ควรเป็นเลือดที่ออกแบบกะปริดกะปรอย หรือการมีเลือดออกนอกรอบการมีประจำเดือน นอกจากนี้ยังมีลักษณะผิดปกติอย่างอื่นด้วย เช่น มีลักษณะเป็นลิ่มเลือดขนาดใหญ่ มีสีดำคล้ำ หรือสีส้มแดงตลอดการเป็นประจำเดือน ร่วมกับมีอาการปวดท้อง เป็นไข้ ปัสสาวะลำบาก คัน และมีกลิ่นเหม็น
  4. ความสม่ำเสมอของประจำเดือน ระยะห่างการเป็นประจำเดือนจะอยู่ที่ 21-35 วันโดยประมาณ หากรอบการมีประจำเดือนสั้นกว่า 21 วันอาจมีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง หรือถ้ารอบประจำเดือนขาดเกิน 3 เดือนอาจเกิดการตั้งครรภ์ แต่ถ้าตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์อาจแสดงถึงภาวะไทรอยด์เป็นพิษได้
  5. อาการอื่นๆ ร่วมขณะมีประจำเดือน อาการผิดปกติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อาการคันในช่องคลอด ปวดท้องมากๆ ปวดมากจนทนไม่ไหว ปวดบริเวณอุ้งเชิงกรานและช่องท้อง แสบร้อนบริเวณช่องคลอด ล้วนเป็นอาการผิดปกติทั้งสิ้น

การดูแลตัวเองเมื่อเป็นประจำเดือน

ประจำเดือนถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้อันตรายอะไร แต่ในช่วงระหว่างมีประจำเดือน กล้ามเนื้อมดลูกจะมีการบีบและคลายตัวมากกว่าปกติ ทำให้บางคนอาจรู้สึกไม่สบายหรือปวดเกร็งบริเวณท้องน้อยได้ ซึ่งสามารถบรรเทาอาการปวดเหล่านั้นได้หลากวิธี ไม่ว่าจะเป็น

  • การประคบร้อนด้วยถุงน้ำร้อน
  • การรับประทานยาในกลุ่ม NSAIDs ได้แก่ ยาเมเฟนามิกแอคซิด ยานาพรอกเซน ยาไอบูโพรเฟน ยาระงับอาการปวด เป็นต้น

แต่หากมีอาการปวดประจำเดือนมากจนทำอะไรไม่ได้เลยกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจส่งผลให้ปวดมากขึ้น การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมก็ช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้เช่นกัน หากอาการยิ่งรุนแรงขึ้นหรือเรื้อรังผิดปกติ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา เพราะอาการปวดนั้นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกปัญหาสุขภาพได้ สำหรับสาวๆ ที่ไม่มีปัญหาเรื่องของการปวดท้องประจำเดือนก็ต้องดูแลตัวเองเช่นเดียวกัน คือ

  • กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยให้เน้นการรับประทานผักใบเขียว เพื่อช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน หลีกเลี่ยงชา กาแฟ และสุรา เพื่อลดอาการปวดก่อนมีประจำเดือน
  • หลายคนกังวลว่า ช่วงเวลามีประจำเดือน ออกกำลังกายได้มั้ย คำตอบคือออกได้ แต่ข้อควรระวังคือ ออกกำลังกายให้เหมาะสม
  • นอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ระบบภายในร่างกายได้พักฟื้น
  • ช่วงมีประจำเดือนเป็นช่วงที่ปากมดลูกเปิดเต็มที่ เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์
  • ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยที่ใช้อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง

การมีประจำเดือนจึงไม่ใช่เรื่องน่าห่วงอีกต่อไป ถ้าดูแลตัวเองให้ถูกวิธี เพื่อให้ทุกวันนั้นของเดือนสดใสและเต็มไปด้วยความมั่นใจ หรือการหาตัวช่วยที่ดีอย่าง MONO ที่อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ 9 ชนิด

สารสกัดโปรตีนถั่วเหลือง

คอลลาเจนสกัดจากปลา

Calcium Ascorbate

Coenzyme Q10

เมล็ดลูกซัด

สารสกัดตังกุย

สารสกัดจากองุ่น

สารสกัดจากเปลือกสน

สารสกัดจากทับทิม

ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนและดีต่อสุขภาพของผู้หญิงทุกวัย เป็นอาหารเสริมเพื่อผู้หญิงที่ได้รับการไว้วางใจและยอมรับให้เป็นผลิตภัณฑ์อันดับ 1 เพื่อสุขภาพและฮอร์โมนที่สมดุล นำไปสู่ผิวพรรณ สุขภาพกายและใจที่แข็งแรงสมบูรณ์ โบกมือลาอาการปวดท้องประจำเดือนไปได้เลย

ติดตามอ่านบทความเกี่ยวกับสุขภาพอื่นๆ ได้ที่ mikanutra.com

    Related Posts

    2 thoughts on “รู้หรือไม่! ประจำเดือนบอกสุขภาพภายในของผู้หญิงได้ แบบไหนผิดปกติ?

    Leave a Reply

    Your email address will not be published. Required fields are marked *

    Scroll To Top