4 โรคร้าย!! ภัยน่ากลัวที่เกิดจากความผิดปกติของตับ

อย่างที่รู้ๆ กันว่าตับเป็นอวัยวะภายในที่สำคัญมาก และทำหน้าที่หลายอย่าง แต่เป็นอวัยวะที่มักโดนมองข้ามและโดนทำร้ายอยู่บ่อยๆ โดยที่ตัวเราเองไม่เคยรู้ตัวเลยว่าพฤติกรรมที่ทำอยู่ทุกๆ วันนั้นกำลังทำร้ายตับของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการกินยาเกินความจำเป็น ดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆ จนเกิดอาการเจ็บป่วยถึงจะตระหนักและเริ่มดูแลกัน วันนี้เราได้รวบรวมโรคที่เกิดจากความผิดปกติของตับมาฝาก มาดูกันว่ามันน่ากลัวขนาดไหน แล้วสาเหตุเกิดจากอะไรบ้าง จะได้หาทางป้องกันได้ถูกทาง

1. โรคไวรัสตับอักเสบ

โรคที่เกิดจากการอักเสบของตับ หรือตับมีการติดเชื้อ พอพูดถึงไวรัสตับอักเสบ ส่วนใหญ่จะคุ้นหูกับ “โรคไวรัสตับอักเสบบี” เพราะเป็นโรคที่พบบ่อยในหมู่คนไทย แต่จริงๆ แล้วโรคไวรัสตับอักเสบยังมีอีกหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นไวรัสตับอักเสบเอ บี ซี ดี และอี ซึ่งไวรัสตับอักเสบดี และอี พบได้น้อยมากในปัจจุบัน โรคไวรัสตับอักเสบ เป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคตับแข็ง และมะเร็งตับ

โรคไวรัสตับอักเสบแบ่งออกเป็น 2 ชนิด

1. โรคไวรัสตับอักเสบชนิดเฉียบพลัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการ 2-3 สัปดาห์หรือไม่เกิน 2 เดือน เป็นไม่นานก็หาย ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะหายขาด มีแค่เพียงบางส่วนเป็นตับอักเสบเรื้อรัง และบางรายรุนแรงถึงกับเสียชีวิต
2. โรคไวรัสตับอักเสบชนิดเรื้อรัง ผู้ป่วยมีอาการต่อเนื่องเกิน 6 เดือน จะแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ Chronic persistent เป็นการอักเสบของตับแบบค่อยๆ เป็น ยังไม่รุนแรง แต่มีโอกาสที่จะทำให้ตับมีการอักเสบมา และ Chronic active hepatitis มีการอักเสบของตับ ตับถูกทำลายมากจนเกิดภาวะตับแข็ง

โรคไวรัสตับอักเสบเอ

เกิดจากไวรัสจำพวก Picornavirus จะติดเชื้อเฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สำหรับคนที่เคยติดเชื้อจะมีภูมิคุ้มกันตลอดชีวิตและจะไม่กลับมาเป็นอีก

สาเหตุการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ

ติดจากการกินอาหารต่อจากผู้ป่วยล้างมือหลังเข้าห้องน้ำไม่สะอาดมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ ดื่มน้ำสกปรก มีเชื้อแฝงอยู่ แต่ไวรัสตับอักเสบเอจะไม่ติดต่อทางน้ำลาย และปัสสาวะ

อาการผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบเอ

เป็นไข้ตัวร้อน ร่างกายอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน แน่นบริเวณชายโครงด้านขวา ท้องร่วง อุจจาระสีซีด ปัสสาวะสีเข้ม และมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง

โรคไวรัสตับอักเสบบี

เป็นการอักเสบของตับซึ่งเกิดจากไวรัสตับอักเสบบี โดยเชื้อไวรัสจะเข้าสู่เซลล์ตับ ก่อให้เกิดการอักเสบในผู้ป่วยบางคนเชื้ออาจจะอยู่นิ่งเป็นปีๆ โดยผู้ที่มีเชื้อไม่ทราบว่าตนเองมีเชื้ออยู่ในร่างกาย เชื้อนี้สามารถแบ่งตัวได้อย่างรวดเร็วในเซลล์ตับซึ่งส่งผลก่อให้เกิดการอักเสบและทำลายตับ

สาเหตุการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี

การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อโดยไม่สวมถุงยางการใช้เข็มฉีดยา เข็มสักตามตัว และการเจาะหู รวมถึงของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่นการติดเชื้อขณะคลอดจากแม่ที่มีเชื้อ ถ้าแม่มีเชื้อลูกจะมีโอกาสได้รับเชื้อมากถึง 90%การสัมผัสเลือดและสารคัดหลั่งโดยผ่านเข้าทางบาดแผล แต่ไวรัสตับอักเสบบีจะไม่ติดต่อทางลมหายใจ อาหารหรือน้ำดื่ม การให้นม และการจูบถ้าไม่มีแผลในปาก

อาการผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบี

แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะเฉียบพลัน, ระยะเรื้อรัง

• ระยะเฉียบพลัน หลังติดเชื้อ มีไข้ ตัวเหลือง ตาเหลือง ปวดท้องด้านชายโครงขวา คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย เป็นผื่น ปวดข้อ
• ระยะเรื้อรัง ผู้ป่วยส่วนมากมักไม่แสดงอาการ แต่ในบางรายอาจมีอาการอ่อนเพลียหรือเบื่ออาหาร

2. โรคตับแข็งจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เป็นภาวะที่ตับเกิดการแข็งตัวเนื่องจากเนื้อตับโดนแทนที่ด้วยพังผืด ทำให้เนื้อเยื่อตับที่เรียบกลายเป็นก้อนและแข็งขึ้น โรคตับแข็งจะแบ่งได้เป็นโรคตับแข็งระยะต้น และโรคตับแข็งระยะท้าย ส่วนใหญ่คนที่เป็นโรคตับแข็งระยะต้นจะมีอาการน้อยหรืออาจไม่มีอาการเลย แต่ถ้าไม่ได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสมก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคตับแข็งระยะท้ายที่จะมีอาการรุนแรงและมักมีภาวะแทรกซ้อนได้

อาการของโรคตับแข็งที่เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ระยะแรกของโรคตับแข็งอาจไม่มีอาการใดๆ เลยนอกจากผลการตรวจเลือดที่บ่งบอกความผิดปกติหรืออาจจะมีอาการเล็กๆ น้อยๆ เช่น รู้สึกไม่สบาย เบื่ออาหาร อยากอาเจียน คันตามผิวหนัง  น้ำหนักตัวลดลง

เมื่อเป็นอย่างต่อเนื่องอาจมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย คือ สีผิวหนังและสีของตาขาวออกสีเหลืองที่เรียกว่า ดีซ่าน ช่องท้องและขาบวม กล้ามเนื้อลีบเล็กลง ปรากฏเส้นเลือดฝอยเหมือนแมงมุมบนผิวหนัง ผิวหนังช้ำและมีเลือดออกง่าย อาเจียนเป็นเลือดหรือมีเลือดในอุจจาระ รู้สึกสับสนหรือความจำไม่ดี อุณหภูมิร่างกายสูงจากการมีไข้เพราะมีการติดเชื้อ การเปลี่ยนแปลงที่แสดงลักษณะทางเพศ เช่น ในผู้ชายอาจสังเกตเห็นว่าเส้นขนตามร่างกายน้อยลง ลูกอัณฑะฝ่อเล็กลง และมีเนื้อเยื่อเต้านมมากขึ้น ถ้าเป็นผู้หญิงอาจจะประจำเดือนมาไม่ปกติ

3. โรคไขมันพอกตับ

เป็นภาวะที่ไขมันเข้าไปแทรกในเซลล์ของตับ หากสะสมมากกว่า 5-10% ของน้ำหนักตับ จะถือว่าเป็นภาวะไขมันพอกตับ ทำให้ตับเกิดการอักเสบ เซลล์ตับตาย และเกิดพังผืดภายในตับ จนกลายเป็นโรคตับแข็งในที่สุด

สาเหตุของไขมันพอกตับ

การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป โรคอ้วน ภาวะไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน พันธุกรรม การอดอาหาร การที่ลดน้ำหนักมากกว่า 1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ การให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ ความผิดปกติของลำไส้ในการดูดซึมสารอาหาร โรคไวรัสตับอักเสบบีและซี หรือการติดเชื้อเอชไอวี ผลข้างเคียงจากการใช้ยาต่างๆ เช่น อะมิโอดาโรน ทาม็อกซิเฟน กลูโคคอร์ติซอล เป็นต้น

อาการของไขมันพอกตับ จะไม่แสดงให้เห็นตั้งแต่เริ่มแรก แต่จะเริ่มมีอาการที่เป็นผลพวงจากการที่ไขมันสะสมอยู่ในตับจำนวนมาก โดยอาการที่พบได้บ่อยคือ เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง รู้สึกไม่สบายท้องน้ำหนักลดผิดปกติ ความอยากอาหารลดลงคลื่นไส้มึนงง ความสามารถในการตัดสินใจและสมาธิลดลงนอกจากนี้ โรคไขมันพอกตับอาจทำให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมาได้ เช่น ตับโต เกิดอาการปวดที่บริเวณท้องด้านบนขวา หรือกลางท้อง และอาจพบรอยปื้นคล้ำที่ผิวหนังบริเวณคอ ใต้รักแร้ได้ด้วย

4. โรคมะเร็งตับ

เกิดจากเซลล์บริเวณตับมีการทำงานผิดปกติแล้วกลายเป็นมะเร็งในที่สุด หรืออาจเกิดจากการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งจากบริเวณอื่นมายังตับก็ได้ ผู้ป่วยโรคมะเร็งตับมักไม่แสดงอาการจนกว่าจะมีขนาดใหญ่

สาเหตุของโรคมะเร็งตับ

เป็นไวรัสตับอักเสบบี และซี หากเป็นเรื้อรังจะพบการเกิดมะเร็งสูง การได้รับสาร Aflatoxin สารเคมีที่ผลิตจากเชื้อราที่อยู่ในอาหารพวกถั่ว ตับแข็งจากสุรา ตับอักเสบ การได้รับสาร Vinyl choloride ยาคุมกำเนิด ยาฮอร์โมนเพศชาย ยารักษาโรคโลหิต การสูบบุหรี่

อาการโรคมะเร็งตับ

โรคมะเร็งตับมักไม่มีสัญญาณหรืออาการบ่งบอกในระยะแรกเริ่ม จนเมื่อมะเร็งพัฒนาถึงขั้นแสดงอาการจึงจะสังเกตได้ดังนี้น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุไม่อยากอาหาร รู้สึกอิ่มแม้รับประทานไปเพียงเล็กน้อยคลื่นไส้ อาเจียน

เจ็บช่องท้องส่วนบนด้านขวา มีอาการบวมที่ช่องท้องหรือคลำพบก้อนไตชายโครงด้านขวา เนื่องจากตับโต อาจคลำพบก้อนที่ชายโครงด้านซ้ายเนื่องจากม้ามโต ผิวหนังและตาเหลือง (ดีซ่าน) อุจจาระอาจมีสีซีดลง อ่อนแรงและเหนื่อยล้า มีอาการคัน เป็นไข้

สรุป

ดูน่ากลัวทุกโรคเลยใช่มั้ยคะ ไม่ว่าจะโรคไหน ระยะไหนก็ดูอันตรายไปหมด ปัจจัยเสี่ยงของแต่ละโรคก็ใกล้ตัวเหลือเกิน บางข้อหลีกเลี่ยงแทบไม่ได้ ดังนั้นควรหันมาดูแลตับของเราก่อนที่มันจะกลายเป็นโรคที่น่ากลัวเหล่านั้น MikaNutra Cleanser ตัวช่วยที่จะทำให้สารพิษสะสมในร่างกายลดลง ด้วยส่วนประกอบสารสกัดจาก Superfood 4 ชนิด

• Psyllium husk

• Apple Cider Vinegar

• Wheatgrass Powder

• Ascorbic Acid

ช่วยให้กระบวนการล้างพิษตามธรรมชาติของร่างกายมีประสิทธิภาพดีขึ้น โดยเฉพาะการขับสารพิษของตับ ทำให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่เหนื่อยล้าหมดแรงเพราะร่างกายเต็มไปด้วยสารพิษอีกต่อไป

อ่านบทความเกี่ยวกับสุขภาพอื่นๆ ได้ที่นี่