
“เมล็ดลูกซัด” สมุนไพรชั้นดี บำรุงสุขภาพผู้หญิง
สุขภาพของเราเป็นสิ่งที่น่าพิศวงนะคะ เพราะกลไกการทำงานของร่างกายมีทั้งเรื่องอัศจรรย์ที่ทำให้เราทึ่งและเรื่องของความเสื่อมสภาพไปตามอายุและกาลเวลา การมองหาตัวช่วยอย่างอาหารเสริมหรือสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติเพื่อนำมาเป็นหนึ่งในอาหารบำรุงร่างกายจึงกลายเป็นอีกทางเลือกของผู้หญิงหลายคน สารสกัดจากเมล็ดลูกซัด หรือ ฟีนูกรีก (Fenugreek) เองก็คือหนึ่งในสมุนไพรชั้นเยี่ยมเหล่านั้น
แต่เมื่อเราพูดถึงเมล็ดลูกซัด หลายคนอาจไม่คุ้นหู เพราะฉะนั้นเราจะลองมาทำความรู้จักกับสุดยอดสมุนไพรจากต่างแดนชนิดนี้กันค่ะ ว่าทำไมมันจึงเป็นหนึ่งในตัวช่วยชั้นเยี่ยมที่ผู้หญิงอย่างเราควรรู้จัก โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ฮอร์โมนแปรปรวน ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไปจนถึงกลุ่มผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
ทำความรู้จักกับเมล็ดลูกซัด (Fenugreek)
เมล็ดลูกซัด (Fenugreek) เป็นสมุนไพรที่มีการค้นพบและถูกนำมาใช้ประโยชน์โดยชาวตะวันตกนับตั้งแต่สมัยโบราณ ถิ่นกำเนิดจริง ๆ ของมันอยู่ที่ฝั่งตะวันออกของทะเลเมอร์ดิเตอเรเนียน มีลักษณะเป็นเล็ดสี่เหลี่ยมขนาดเล็กสีเหลืองทองและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ มีคุณสมบัติเป็นน้ำตาลโมเลกุลใหญ่หรือ Galactomannan มีคุณสมบัติช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดให้ต่ำลงรวมถึงช่วยปรับกระบวนการดูดซึมน้ำตาลกลูโคสในลำไส้ให้ช้าลง จึงสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดอีกทั้งยังสร้างความหนืดในกระเพาะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและอิ่มนาน
นอกจากนี้เมล็ดลูกซัดยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์เป็นยาสมุนไพรบำรุงร่างกายได้หลากหลาย ทั้งช่วยกระตุ้นการเพิ่มน้ำนมของหญิงให้นมบุตร ขยายขนาดหน้าอก ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ช่วยเพิ่มกระบวนการย่อยอาหาร และยังมีคุณสมบัติลดอาการร้อนวูบวาบที่เกิดในหญิงวัยหมดประจําเดือนได้อีกด้วยค่ะ
ประโยชน์ของสารสกัดเมล็ดลูกซัด (Fenugreek extract )
เมล็ดลูกซัดมีคุณประโยชน์ต่อร่างหลายอย่างทั้งในแง่ของการบำรุงสุขภาพ มันกลายเป็นยาสมุนไพรที่คนโบราณนำมาใช้ทางการแพทย์พื้นบ้านมาตั้งแต่ครั้งอดีตโดยเฉพาะในกลุ่มคนตะวันตกก่อนที่จะแพร่หลายเข้ามายังประเทศไทย เมล็ดลูกซัดมีส่วนบรรเทาอาการของโรค รวมถึงช่วยบรรเทาอาการหรือภาวะเฉพาะทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น

- บรรเทาอาการหอบ หืด
- บรรเทาอาการปวดศีรษะ ไมเกรน
- บรรเทาอาการขยายตัวของตับและม้าม
- บรรเทาอาการของวัยหมดประจำเดือน
- บรรเทาอาการแทรกซ้อนของโรคเบาหวานและโรคเกาต์
- ลดความเสี่ยงการเกิดภาวะกระดูกอ่อน
- ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดและความดันโลหิตสูง
- รักษาอาการท้องอืด จุก เสียด บิด ท้องร่วง และภาวะอาหารไม่ย่อย
- มีโคลีนซึ่งอาจช่วยบำรุงประสาทและยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ชะลอความชราและช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ
- เป็นยาบำรุงกำลัง
เจาะลึกประโยชน์ของสารสกัดเมล็ดลูกซัดและผู้หญิง
สำหรับผู้หญิงแล้ว เมล็ดลูกซัดถือเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ในหลาย ๆ ด้านเป็นอย่างมาก เพราะมีส่วนช่วยภาวะต่าง ๆ ในร่างกายของผู้หญิง ดังนี้ ช่วยกระตุ้นน้ำนมและการหลั่งน้ำนมของหญิงที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน จากการทดสอบให้กลุ่มอาสาสมัครรับประทานผงเมล็ดลูกซัด 8 – 2.7 กรัม วันละ 3 ครั้ง ในช่วง 3 วันแรกที่ประจำเดือนมา และทานเพิ่ม 0.9 กรัมต่อไปอีก 2 รอบเดือน พบว่าช่วยลดอาการปวดประจำเดือนและลดการใช้ยาแก้ปวดได้ด้วยนะคะ

- ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไขมันโลหิตสูง และช่วยลดไขมันเลว (LDL) ในร่างกาย
- บรรเทาอาการของหญิงวัยหมดประจำเดือน เช่น อาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกง่าย เป็นต้น
เลือกทานสารสกัดเมล็ดลูกซัดอย่างไรให้ปลอดภัย
องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐ หรือ FDA ได้จัดให้เมล็ดลูกซัดเป็นพืชสมุนไพรในกลุ่ม GRAS (Generally Recognized As Safe) ซึ่งเป็นรายการในระดับเดียวกับยาและสมุนไพรทั่วไป
แต่การรับประทานเมล็ดลูกซัดหรือสารสกัดจากเมล็ดลูกซัดก็อาจมีผลข้างเคียงขึ้นได้ เช่น เกิดอาการปวดท้อง ท้องอืด เหงื่อและปัสสาวะมีกลิ่นเมเปิ้ลไซรัป หรืออาจแพ้ด้วยอาการเช่นเดียวกับคนที่แพ้ถั่วเหลืองหรือถั่วลิสง
นอกจากนี้ผู้ป่วยที่รับประทานยาในกลุ่มต่อไปนี้ก็ต้องระมัดระวังในการรับประทานเมล็ดลูกซัดเช่นกัน ได้แก่
- ยาลดระดับน้ำตาล
เพราะเมล็ดลูกซัดมีคุณสมบัติช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้นหากรับประทานพร้อมกันอาจทำให้น้ำตาลในร่างกายต่ำเกินไปได้ ผู้ที่รับประทานยากลุ่มนี้จึงต้องติดตามระดับน้ำตาลในร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
- ยาละลายลิ่มเลือด
ยาประเภทสลายลิ่มเลือดหรือยาต้านเกล็ดเลือด เช่น ยาจำพวก Aspirin หรือ Warfarin ก็ไม่ควรรับประทานร่วมกับลูกซัด เพราะอาจทำให้เลือดหยุดช้าและทำให้เลือดไหลง่ายขึ้น
เมล็ดลูกซัดกับภาวะอื่น ๆ ของร่างกาย
- เมล็ดลูกซัดกับประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย
จากข้อสรุปของงานวิจัยหลายชิ้นเรื่องการรับประทานเมล็ดลูกซัดกับการออกกำลังกาย พบว่า การรับประทานเมล็ดลูกซัดไม่ได้ส่งผลเรื่องการเพิ่มระดับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อโดยตรง แต่มีส่วนช่วยลดไขมันและเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายประเภท Bench press ให้มากขึ้นได้ โดยผลวัดออกมาในรูปแบบของระยะเวลาการออกกำลังกายที่นานขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยเพิ่มระดับน้ำหนักที่เราสามารถยกได้แต่อย่างใดนะคะ เพราะน้ำหนักที่เราจะเวทได้ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อนั่นเอง
- เมล็ดลูกซัดกับภาวะแสบร้อนกลางอก (Heartburn)
มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการรับประทานเมล็ดลูกซัดหรือสารสกัดเมล็ดลูกซัดก่อนอาหารมื้อใหญ่จะช่วยบรรเทาภาวะแสบร้อนกลางอกหรืออาการที่เกิดจากกรดไหลย้อนได้
- เมล็ดลูกซัดกับการลดน้ำหนัก
เป็นอีกเรื่องที่สาว ๆ หลายคนอยากรู้ว่าเมล็ดลูกซัดมีส่วนช่วยลดน้ำหนักหรือไม่ ซึ่งจากงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าสารสกัดจากเมล็ดลูกซัดนั้นมีส่วนช่วยลดปริมาณการบริโภคไขมันของผู้ที่มีน้ำหนักเกินได้ เมื่อเรารับประทานสารสกัดเมล็ดลูกซัดปริมาณ 392 มิลลิกรัมสามครั้งต่อวัน ติดต่อกันนาน 2-6 สัปดาห์ ส่วนการเพิ่มกากใยอาหารจากการรับประทานลูกซัดร่วมกับอาหารเช้ามีส่วนช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่มและลดความหิวก่อนถึงมื้อถัดไปได้ เพราะฉะนั้นเมล็ดลูกซัดอาจมีประโยชน์ในแง่ของการควบคุมความหิว ลดความอยากอาหาร แต่หากจะลดน้ำหนักให้ได้ผลจริงเราก็ต้องทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายด้วยนะคะ
- เมล็ดลูกซัดกับโรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease)
มีงานวิจัยที่ศึกษาและพบว่า การรับประทานสารสกัดจากเมล็ดลูกซัดเป็นเวลาสองครั้งต่อวัน ติดต่อกันนาน 6 เดือนไม่ได้ช่วยลดอาการของผู้ป่วยพาร์กินสันแต่อย่างใดนะคะ ซึ่งปัญหาข้อนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาและพิสูจน์ทางการแพทย์ต่อไป
- เมล็ดลูกซัดกับโรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ
มีงานวิจัยหลายชิ้น พบว่า การรับประทานสารสกัดเมล็ดลูกซัดปริมาณ 1,000 มิลลิกรัมทุกวันอาจช่วยลดขนาดของถุงน้ำในรังไข่ได้ และยังมีส่วนช่วยควบคุมความยาวของรอบเดือนรวมถึงช่วงเวลาของการมีประจำเดือนในแต่ละรอบได้อีกด้วย
เรื่องราวและสรรพคุณของสารสกัดเมล็ดลูกซัดอาจยังไม่เป้นที่คุ้นเคยกับผู้หญิงไทย แต่ความจริงแล้วในวงการอาหารเสริมสำหรับคนรักสุขภาพมีความสนใจในเมล็ดลูกซัดมานานแล้ว เพราะมันเป้นสมุนไพรโบราณจากฝั่งเมอร์ดิเตอเรเนียนที่มีสรรพคุณหลายอย่างซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเรา โดยเฉพาะผู้หญิงที่ประจำเดือนมาไม่ปกติหรืออยู่ในช่วงวัยหมดประจำเดือน การรับประทานสารสกัดจากเมล็ดลูกซัดก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยบรรเทาอาการที่เกิดจากภาวะฮอร์โมนไม่ปกติได้ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยบำรุงกำลังและบำรุงร่างกายของเราอีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตามสาว ๆ ที่กำลังสนใจสรรพคุณของสมุนไพรชนิดนี้ก็อย่าลืมสำรวจสุขภาพของตัวเองว่าเราอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ไม่ควรรับประทานสารสกัดจากเมล็ดลูกซัดหรือเปล่า หากไม่แน่ใจลองปรึกษาคุณหมอก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อให้เราเลือกทานอาหารเสริมได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อร่างกายของเรามากที่สุด