Exclusing Offer For Thai Residents

Blog

Mar 24 2020

เคอร์คิวมินกับอาการปวดข้อ แก้ปวดได้จริงหรือแค่ข่าวลือ?


Curcumin

เคอร์คิวมินกับอาการปวดข้อ แก้ปวดได้จริงหรือแค่ข่าวลือ?

คงหนีไม่พ้นกับเทรนด์สุขภาพที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากกับการรักษาอาการอักเสบและอาการปวดด้วยพลังจากธรรมชาติด้วยเคอร์คิวมินซึ่งทุกคนก็คงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะคนไทยอย่างเราเติบโตและใช้ขมิ้นในการปรุงอาหาร ไม่ว่าจะเป็นต้ม แกง ทอดต่างมีส่วนประกอบจากขมิ้นอยู่ไม่มากก็น้อย แล้วเคอร์คิวมินคืออะไร? มีหน้าที่อะไร? แล้วเกี่ยวอะไรกับอาการปวดข้อ? วันนี้ MikaNutra จะมาไขข้อข้องใจทุกคนได้รู้กัน

มาทำความรู้จักโรคข้อเสื่อมกัน

โรคข้อเสื่อมฟังดูแล้วเหมือนโรคของคนสูงอายุ แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ที่อยู่ในช่วงวัยกลางคนหรือวัยรุ่นโดยเฉพาะผู้ที่ออกกำลังกายหักโหมหรือได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อต่างๆ แม้ว่าการบำบัดอาการให้ทุเลาจะมีมากมายหลายรูปแบบ ตั้งแต่ใส่เฝือก ลดน้ำหนักเพื่อลดการใช้ข้อเกินความจำเป็น ยาลดการอักเสบหรือกายภาพบำบัด แต่นั่นไม่ได้หมายถึงว่าปัญหานั้นได้ถูกรักษา รู้สึกดีขึ้นและอาการนั้นหายเป็นปลิดทิ้ง การได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อถือเป็นการรักษาที่ดีที่สุดโดยเฉพาะบริเวณเข่าและสะโพก แต่ผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมส่วนมากก็ยังเสาะหาสิ่งที่ช่วยให้อาการปวดข้อนั้นเบาเทาอาการลง

หลายคนหันไปหาการลดน้ำหนักโดยการทานอาหารเฉพาะอย่าง เช่น คีโตเจนิค (Ketogenic Diet), เลือกทานเฉพาะ Superfood, กลูเตนฟรี หรือวิธีไดเอทอื่นๆ อย่างไรก็ตามมีหลักฐานน้อยมากที่พิสูจน์ว่าการไดเอทนั้นได้ผลและช่วยบรรเทาอาการของโรคข้อเสื่อม แต่ได้มีงานวิจัยชิ้นใหม่ ซึ่งกล่าวถึงเคอร์คิวมินและประสิทธิภาพของมันที่ช่วยให้อาการปวดข้อลดลงและช่วยบรรเทาอาการของโรคข้อเสื่อม

โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis) คือ โรคที่เกิดจากความผิดปกติของข้อที่มีสาเหตุเกิดจากการเสื่อมและสึกหรอของผิวกระดูกอ่อนหุ้มข้อ เกิดจากความเสื่อมตามวัยหรือปัจจัยอื่นที่มีผลต่อการเสื่อมสภาพของข้อ เช่น การได้รับการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายหรือโรคแทรกซ้อนจากโรคเรื้อรังอื่น ซึ่งจะมีผลทำให้มีอาการปวดบริเวณข้อและส่งผลให้ความสามารถในการเคลื่อนไหวของข้อลดลง โดยบริเวณที่สามารถเกิดอาการข้อเสื่อมได้ก็คือ ข้อเข่า ข้อเท้า ข้อมือ ข้อสะโพก ข้อกระดูกสันหลัง เป็นต้น

โรคข้อเสื่อมจะพบมากในผู้สูงอายุช่วง 50-60 ปี และพบว่าเพศหญิงมีโอกาสเกิดโรคนี้มากกว่าเพศชายถึง 2 เท่า รวมถึงการแสดงอาการมักพบมีอาการที่รุนแรงกว่า อาการที่เป็นลักษณะเด่นของโรคนี้คือ อาการข้อฝืดในตอนเช้า ปวดตามข้อ การเคลื่อนไหวของข้อไม่เต็มที่ และมักมีเสียงดังกรอบแกรบภายในข้อขณะเคลื่อนไหว

เคอร์คิวมินคืออะไร?

เคอร์คิวมิน (Curcumin) เป็นสารประกอบหลักของ “ขมิ้น” หรือที่ฝรั่งเรียกว่า “Turmeric” เคอร์คิวมินในขมิ้นเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการระงับความปวด บรรเทาอาการอักเสบ ป้องกันการเกิดตับเป็นพิษ และช่วยในการรักษาโรคมะเร็ง สามารถใช้แทนยาแก้ปวดได้หากอาการปวดนั้นมีไม่มาก อีกทั้งยังช่วยให้เลือดเดินดีขึ้นและลดอาการบวม

จากงานวิจัยพบว่าเคอร์คิวมินช่วยบรรเทาอาการปวดและลดอาการอักเสบได้ดีมาก หากมีอาการปวดตั้งแต่เอวขึ้นไปเคอร์คิวมินจะทำงานดีเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามการใช้เคอร์คิวมินเพื่อบรรเทาอาการปวดไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะช่วงลำตัวและส่วนบนของร่างกายเท่านั้น เคอร์คิวมินสามารถบรรเทาอาการปวดเอวและปวดหลังได้ดีพอๆ กัน

จากการทดลองทางชีวเคมีพบว่าเคอร์คิวมินเป็นสารที่ช่วยลดอาการอักเสบ ลดอาการปวดและลดอาการเป็นลิ่มเลือด ซึ่งหากคุณมีปัญหาเรื่องอาการเลือดไหลไม่หยุดหรือทานยาบางชนิดที่ส่งผลให้เลือดเจือจางลงเพื่อให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานอาหารเสริมเคอร์คิวมินเพราะอาจเกิดอาการข้างเคียงได้

เคอร์คิวมินนั้นถือเป็นสมุนไพรที่ปลอดภัยในการรับประทาน ซึ่งในอาหารไทยก็มีขมิ้นเป็นส่วนประกอบในเครื่องแกงมากมายหลายชนิด เคอร์คิวมินที่อยู่ในรูปของอาหารเสริมได้ถูกทำมาเพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ง่ายขึ้น เมื่อเทียบกับขมิ้นสดซึ่งยากต่อการดูดซึมเพราะในอาหารเสริมเคอร์คิวมินมีสารพิเพอรีน (Peperine) สารแอลคาลอยด์ที่พบในพริกไทย ที่ช่วยให้การดูดซึมเคอร์คิวมินในร่างกายนั้นดีขึ้นและส่งผลให้เคอร์คิวมินทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

เคอร์คิวมินแก้ปวดได้จริงหรือมั่ว?

ในงานวิจัยโดยนักวิจัยได้ให้กลุ่มคน 139 คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคเข่าเสื่อม โดยอาการของแต่ละคนก็มีตั้งแต่มีอาการเล็กน้อยไปจนถึงหนักมากซึ่งต้องใช้ยาลดอาการอักเสบในกลุ่ม NSAID ในเวลา 1 เดือนนักวิจัยได้ให้ยา NSAID Diclofenac 50 mg 2 ครั้งต่อวัน หรือให้ทานเคอร์คิวมิน 500 mg 3 ครั้งต่อวัน

ทำไมต้องเป็นเคอร์คิวมิน? เพราะสารที่พบในขมิ้นนั้นมีฤทธิ์ในการลดอักเสบ อีกทั้งยังช่วยในเรื่องโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคข้อเสื่อมและบรรเทาอาการไม่พึงประสงค์ต่างๆ

และนี่คือรายงานผลการวิจัย:

  • จากการรักษาทั้ง 2 แบบช่วยลดอาการปวดของโรคปวดข้อในระดับเดียวกัน โดย 94% ของผู้ที่ทานเคอร์คิวมินและ 97% ของผู้ที่ทาน Diclofenac รายงานว่ารู้สึกดีขึ้นและอาการนั้นดีขึ้น 50%
  • มีคนส่วนน้อยมากที่ได้รับผลกระทบจากอาการข้างเคียงที่เกี่ยวกับอาการปวดท้องจากการรักษาด้วยเคอร์คิวมิน แต่มีผู้ป่วยถึง 28% ที่ได้รับผลจากอาการข้างเคียงและมีปัญหาเกี่ยวกับอาการปวดท้องจากการทานยา Diclofenac และต้องเข้ารับการรักษาอาการปวดท้องนั้น
  • กลุ่มผู้ที่ทานเคอร์คิวมินมีน้ำหนักตัวที่ลดลง 2% เมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวที่ชั่งเมื่อ 1 เดือนที่แล้วก่อนจะเริ่มทานเคอร์คิวมินเพื่อรักษาอาการปวดเข่า โดยคนส่วนมากมีน้ำหนักลดลง 1.5 กิโลต่อน้ำหนักตัว 79 กิโลกรัม

พร้อมจะทานเคอร์คิวมินหรือยัง?

เดี๋ยวก่อน ถึงแม้จะมีงานวิจัยสนับสนุนและมีผู้คนยืนยันว่าเคอร์คิวมินทำงานได้ดีเหมือนยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาโรคข้อเสื่อม แต่ก็ไม่มียาวิเศษอะไรที่ได้ผลเพียงข้ามคืน ก่อนที่จะลองทานเคอร์คิวมิน คุณต้องตระหนักถึงความจริงที่ว่า:

  • งานวิจัยนั้นเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ เพียง 1 เดือนเท่านั้น
  • งานวิจัยได้ทดลองในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการปวดข้อเข่าเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่สามารถเหมารวมได้ว่าอาการปวดข้อบริเวณอื่นๆ จะได้ผลเหมือนกับอาการปวดข้อเข่า เพราะอาจจะได้ผลดีกว่าหรือได้ผลเหมือนกันก็เป็นได้
  • การทดลองโดยการให้ผู้ป่วยทานเคอร์คิวมินและเปรียบเทียบกับการทานยา Diclofenac นั้นได้ทดลองในปริมาณโดสที่นักวิจัยคิดว่าเป็นขนาดที่เหมาะสมในการวิจัย และยา Diclofenac ที่ให้ผู้ป่วยนั้นเป็นประเภทที่ไม่ได้เคลือบ ซึ่งอาจส่งผลเร็วกว่าแบบเคลือบและทำให้เกิดอาการระคายเคืองในช่องท้องได้มากกว่าแบบเคลือบ ฉะนั้นผลการทดลองอาจจะไม่เหมือนกันหากนักวิจัยใช้ยากลุ่ม NSAID ชนิดอื่นหรือใช้ขนาดโดสที่แตกต่างหรือแม้กระทั่งยาสูตรอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกันอาจจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างเมื่อเทียบกับการใช้เคอร์คิวมินเพื่อการรักษา
  • อายุของผู้ใช้อาจจะส่งผลต่อการตอบสนองของร่างกายและเคอร์คิวมิน เนื่องจากยังไม่มีงานวิจัยที่แยกกลุ่มผู้ป่วยโดยอายุอย่างชัดเจน จึงไม่สามารถบอกได้ว่า ผู้สูงอายุและผู้ที่มีอายุน้อยกว่าส่งผลต่อการทำงานของเคอร์คิวมินหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ในกลุ่มผู้ที่ทดลองทุกคนที่ใช้เคอร์คิวมินรู้สึกว่าอาการปวดดีขึ้น
  • ผลข้างเคียงจากการทานเคอร์คิวมินที่ทำให้น้ำหนักลดนั้น อาจจะส่งผลแย่กับผู้ป่วยที่ผอมมากอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตามการทานอาหารที่มีประโยชน์หรือการเลือกวิธีไดเอทอาจส่งผลให้ร่างกายของแต่ละบุคคลตอบสนองต่อการรักษาด้วยเคอร์คิวมินแตกต่างกัน แต่ที่แน่ๆ คือการทาน เคอร์คิวมินซึ่งถือเป็นยาจากธรรมชาติ นั้นส่งผลดีต่อผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องปวดข้อเข่าแน่นอน ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นรายงานการวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับการใช้เคอร์คิวมินและการรักษาโรคปวดข้อในบริเวณอื่นๆ รวมถึงในระยะเวลาที่ยาวกว่า 1 เดือนก็เป็นได้ ซึ่งนั้นจะส่งผลให้เคอร์คิวมินมีงานวิจัยรับรองที่มีข้อมูลและหลักฐานที่แน่นมากพอ ส่งผลต่อความมั่นใจของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น

    Related Posts

    One thought on “เคอร์คิวมินกับอาการปวดข้อ แก้ปวดได้จริงหรือแค่ข่าวลือ?

    Leave a Reply

    Your email address will not be published. Required fields are marked *

    Scroll To Top